บริติชแอร์เวย์สลดการจ้างงานสูงสุด 12,000 ตำแหน่งเนื่องจากการเดินทางทางอากาศพังทลายลง

สายการบินบริติชแอร์เวย์สกำหนดให้ลดตำแหน่งงานได้ถึง 12,000 ตำแหน่งจากจำนวนพนักงานที่แข็งแกร่งถึง 42,000 คนเนื่องจากการล่มสลายของธุรกิจเนื่องจากการระบาดของโรคโคโรนาไวรัส

IAG บริษัท แม่ของสายการบินกล่าวว่าต้องการกำหนด “การปรับโครงสร้างและโปรแกรมสำรอง” จนกว่าความต้องการเดินทางทางอากาศจะกลับสู่ระดับ 2019

Balpa ‘สหภาพนักบินกล่าวว่ามันเป็น “ความเสียหาย” ในข่าวและสาบานว่าจะต่อสู้กับ “ทุกงาน” ตัดงาน

IAG ยังเป็นเจ้าของสายการบินสเปนไอบีเรียและ Aer Lingus ของไอร์แลนด์

ในแถลงการณ์ IAG กล่าวว่า: “ข้อเสนอยังอยู่ภายใต้การให้คำปรึกษา แต่เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะส่งผลกระทบต่อพนักงานส่วนใหญ่ของบริติชแอร์เวย์สและอาจส่งผลให้เกิดการซ้ำซ้อนมากถึง 12,000 คน”

บริษัท กล่าวว่าจะใช้เวลาหลายปีก่อนที่การเดินทางทางอากาศจะกลับสู่ระดับพรี – ไวรัสซึ่งเป็นการเตือนที่สายการบินทั่วโลกให้ความเห็น

นอกเหนือจากคำกล่าวของ IAG แล้วผู้บริหารระดับสูงของอเล็กซ์ครูซเขียนในจดหมายถึงพนักงานว่า: “ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาภาพรวมของอุตสาหกรรมการบินมีแนวโน้มแย่ลงและเราต้องลงมือทำตอนนี้เราเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่ง เผชิญหน้ากับและเอาชนะวิกฤตการณ์หลายอย่างในประวัติศาสตร์ร้อยปีของเรา

“เราต้องเอาชนะวิกฤตินี้ด้วยเช่นกันไม่มีรัฐบาลที่ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ BA และเราไม่สามารถคาดหวังว่าผู้เสียภาษีจะชดเชยเงินเดือนอย่างไม่มีกำหนด … เราจะเห็นสายการบินบางแห่งออกไปทำธุรกิจ”

การออกกำลังกายภายใน 15 นาทีด้วยดัมเบล

สิ่งสำคัญที่คนอยากออกกำลังกาย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ลงมือทำ มักเลือกเป็นข้ออ้างอยู่เสมอๆ ก็คือ การใช้คำว่าไม่มีเวลา อย่างไรก็ตาม หากเรามีเวลานับชั่วโมงๆ เพื่อเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ การจะใช้เวลาสัก 15 นาทีในการออกกำลังกายก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย แต่สำหรับผู้ชายที่มีงานยุ่ง รัดตัว จนยากที่จะปลีกเวลาออกกำลังกาย เอาเป็นว่า ขอเวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น เพราะนี่คือ 15 นาทีที่จะทำให้คุณได้ออกกำลังกายครบเกือบทุกส่วน

เงื่อนไขในการออกกำลังกายภายใน 15 นาทีที่ว่านี้ มีเพียงเงื่อนไขเดียว นั่นคือ คุณต้องมีดัมเบล (Dumbbell) ไม่ว่าจะมีน้ำหนักเท่าไรก็ตาม แต่ขอให้เป็นดัมเบลที่คุณสามารถยกไหวภายในห้วงเวลา 15 นาที สำหรับการออกกำลังกาย ส่วนเรื่องพื้นที่ออกกำลังกายก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะมิได้ใช้พื้นที่อะไรมากนัก สามารถใช้พื้นที่ของห้องนอน ห้องรับแขก พื้นที่บางส่วนในโฮมออฟฟิศ ดังนั้นแล้ว ท่าออกกำลังกายที่แนะนำ คุณสามารถทำที่ใดก็ได้นั่นเอง

Dumbbell Deadlift ท่า Deadlift นับเป็นหนึ่งในท่าออกกำลังกายที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เนื่องจากการฝึกด้วยท่านี้ จะทำให้ร่างกายของเราได้ความแข็งแกร่งของเอ็นหลังหัวเข่า (Hamstrings), กล้ามเนื้อส่วนสะโพก (Glutes) และกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง (Lower back) ส่วนการออกกำลังกายท่านี้ ควรยืนให้เท้าแยกห่างกันเท่ากับระยะของหัวไหล่ โดยวางดัมเบลไว้ข้างเท้า เมื่อพร้อมแล้วให้เรางอเข่า แล้วยกดัมเบล จากนั้นเหยียดขาขึ้น พยายามอย่าแกว่งแขนช่วย ไม่งั้นร่างกายจะได้การฝึกไม่สมบูรณ์ เมื่อทำสำเร็จแล้ว ให้ทำท่านี้ซ้ำเป็นจำนวน 10 ครั้ง

Dumbbell Biceps Curl ท่านี้เรียกได้ว่า เป็นท่าเบสิคของการใช้ดัมเบลเลยก็ว่าได้ และถือว่า น่าจะเป็นท่าออกกำลังกายแรกๆ ที่คนรู้จัก และแม้มันจะเป็นท่าที่เบสิคก็จริง ถึงกระนั้นแล้ว Dumbell Biceps Curl ก็ยังเป็นท่าที่ช่วยเสริมกล้ามเนื้อหน้าแขนได้เป็นอย่างดี โดยท่าการออกกำลังกายให้เรายืนระยะของเท้าประมาณความกว้างของหัวไหล่ ยืดหลังให้ตรง จากนั้นค่อยๆ ยกน้ำหนักขึ้นมา พยายามรักษาลำตัวให้นิ่งไว้ และอย่าใช้ลำตัวเสริมแรงเด็ดขาด เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อที่เราต้องการพัฒนาไม่สามารถพัฒนาได้เต็มที่ เมื่อทำครบถ้วนทุกกระบวนการแล้ว ให้กลับมาที่ท่าเริ่มต้น ทำแบบนี้ซ้ำเป็นจำนวน 10 ครั้ง

Upright Row ตามปกติแล้ว ท่านี้คนจำนวนมากมักจะใช้บาร์ในการออกกำลังกาย แต่หากเราออกกำลังกายในบ้าน หรือในพื้นที่แคบๆ การใช้บาร์ดูจะเป็นเรื่องที่ยากเกินไปสักหน่อย แต่กระนั้นท่าออกกำลังกาย Upright Row เป็นท่าที่สามารถใช้ดัมเบลออกกำลังกายแทนได้เช่นกัน โดยท่านี้ จะเป็นท่าที่เสริมกล้ามเนื้อหัวไหล่ และหลังช่วงบนให้แข็งแรง รวมถึงยังมีผลต่อกล้ามเนื้อหลังแขน (triceps) เล็กน้อย ในการออกกำลังกายด้วยท่า Upright Row โดยการใช้ดัมเบลนั้น การยืนควรยืนระยะห่างประมาณสะโพก ส่วนการถือดัมเบลให้ถือแบบคว่ำมือ จากนั้นดึงดัมเบลขึ้นมาในแนวตรงให้ราวๆ ปลายคาง จากนั้นค่อยๆ หย่อนดัมเบลกลับลงไปเป็นท่าเตรียมพร้อม ฝึกด้วยท่านี้ทั้งสิ้น 10 ครั้ง

ความคุ้มครองของการเปรียบเทียบราคาประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

สำหรับใครที่มีรถยนต์ส่วนตัวแล้วต้องขับรถเดินทางไปไหนมาไหนเป็นประจำ แน่นอนว่านอกจากจะต้องทำ พ.ร.บ. รถยนต์ แล้ว การทำประกันรถยนต์ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็น เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยคุ้มครองผู้เอาประกันหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ซึ่งประกันรถยนต์ก็มีหลายประเภท แต่ประกันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้น ประกันรถยนต์ชั้น 1 หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมถึงต้องทำประกันรถยนต์ชั้น 1 แล้วประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง

การเปรียบเทียบราคาประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็น ประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัยได้ครอบคลุมมากที่สุด และให้ความคุ้มครองมากกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ และ ประกันรถยนต์ชั้น 3 เป็นต้น ซึ่งความคุ้มครองหลักๆ ของ ประกันรถยนต์ชั้น 1 มีดังนี้

ความคุ้มครองของการเปรียบเทียบราคาประกันภัยรถยนต์ชั้น 1

  • ความรับผิดต่อความเสียหายของรถยนต์คันที่เอาประกัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุทั้งแบบมีและไม่มีคู่กรณี
  • คุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนเสาไฟฟ้า หินดีด กระจกแตก กระจกร้าว ยางระเบิด เป็นต้น
  • คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินและรถยนต์ของคู่กรณี
  • คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของผู้เอาประกัน
  • คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของคู่กรณี และบุคคลภายนอก
  • คุ้มครองค่าชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลแก่ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณี
  • ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณี
  • ชดเชยความเสียหายกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม
  • เงินค่าประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา

จะเห็นได้ว่าการเปรียบเทียบราคาประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ค่อนข้างครอบคลุมมากเลยทีเดียว โดยวงเงินความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัท